อหาอัตโนมัติ
)
วิธีนี้ใช้เวลาในการสร้างงานนำเสนอไม่มาก
เพียงแค่ตอบคำถามกับแก้ไขในแต่ละสไลด์เล็กน้อย ก็จะได้งานนำเสนอแล้ว
PowerPoint 97 จะเตรียมหัวข้อการนำเสนอมาให้เลือก
เมื่อเลือกได้แล้วโปแกรมจะกำหนดรูปแบบในสไลด์ให้อัตโนมัติทั้งหมด
วิธีที่
2 สร้างงานนำเสนอด้วย Template ( ออกแบบแม่แบบ
)
Template หมายถึง
ต้นแบบของสไลด์ทั้งหมดที่อยู่ในงานนำเสนอนั้น เมื่อทำการสร้างสไลด์แผ่นใหม่ คุณสมบัติของสไลด์เดิมจะถูกถ่ายทอดไปยังสไลด์ใหม่ๆทันที
วิธีนี้จะแตกต่างจากการสร้างสไลด์ด้วย
AutoContent Wizard คือ ไม่ได้แนะนำหัวข้อ และรูปแบบการวางข้อความในสไลด์มาให้
เราต้องจัดวางเองทั้งหมด
วิธีที่
3 สร้างงานนำเสนอแบบ Blank Presentation ( สไลด์เปล่า
)
ถ้าไม่ชอบรูปแบบพื้นสไลด์
หรือสีสันที่โปรแกรมกำหนดมาให้ ก็สามารถสร้างสิ่งต่างๆในสไลด์ด้วยตัวเองได้
โดยเลือกสร้างงานนำเสนอแบบ Blank Presentation
2.2 การสร้างงานนำเสนอด้วย AutoContent
Wizard ( ตัวช่วยสร้างเนื้อหาอัตโนมัติ )
การสร้างงานนำเสนอด้วย
AutoContent Wizard เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นใช้งาน
PowerPoint หรือผู้ที่ไม่มีเวลาในการออกแบบสไลด์ เพราะการสร้างงานนำเสนอแบบนี้ง่ายและรวดเร็วที่สุด
วิธีการสร้างงานนำเสนอด้วย ตัวช่วยสร้างเนื้อหาอัตโนมัติมีรายละเอียดดังนี้
1. เปิดโปรแกรม
PowerPoint2000 จะพบหน้าต่าง กล่องโต้ตอบเริ่มต้น
2. คลิกเลือก “
ตัวช่วยสร้างเนื้อหาอัตโนมัติ ”
3. คลิกปุ่ม “
ตกลง ” เพื่อเริ่มสร้างงานอัตโนมัติ
4. เริ่ม Start
ขั้นตอนแรก คลิก “ ถัดไป >” เพื่อทำขั้นตอนต่อไป
5. ขั้นตอน ชนิดของงานนำเสนอ
คลิกเลือกประเภทของงานนำเสนอ
6. คลิกเลือกชนิดของงานนำเสนอที่ต้องการแล้วคลิก
“ ถัดไป >” เพื่อทำขั้นตอนต่อไป

7. ขั้นตอน
ลักษณะงานนำเสนอ ให้คลิกเลือกว่าจะแสดงผลงานนำเสนอนี้กับอุปกรณ์ใด
8. ขั้นตอน ตัวเลือกงานนำเสนอ
ให้ป้อนชื่อเรื่องคงที่จะนำเสนอ ข้อความท้ายกระดาษการกำหนดเพิ่มเติมว่าต้องการเพิ่มวันที่ปรับปรุงครั้งล่าสุด
และหมายเลขภาพนิ่งหรือไม่ ถ้าต้องการให้คลิก P เลือกในช่องที่ต้องการ
และคลิก “ ถัดไป >” เพื่อทำขั้นตอนต่อไป
9. คลิก “
เสร็จสิ้น ” เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนของ
ตัวช่วยสร้างเนื้อหาอัตโนมัติ

ในกรณีที่ได้ซ่อน
กล่องโต้ตอบเริ่มต้นไปแล้ว แต่ต้องการเรียกตัวช่วยสร้างเนื้อหาอัตโนมัติ อีก สามารถทำได้อีกวิธีหนึ่งโดยการเลือก
คำสั่ง แฟ้ม > สร้าง จากนั้นให้คลิกที่แถบ General
จะเห็นไอคอน ตัวช่วยสร้างเนื้อหาอัตโนมัติ เพียงเท่านี้ เราก็สามารถสร้างงานนำเสนอข้อมูลใหม่ได้โดยไม่จำเป็นต้องเปิดโปรแกรม
PowerPoint ใหม่ทุกครั้ง
2.3 การสร้างงานนำเสนอข้อมูลด้วย
Template (แม่แบบ)
เราได้ทราบวิธีการสร้างงานนำเสนอด้วย
ตัวช่วยสร้างเนื้อหาอัตโนมัติ มาแล้วต่อไปเป็นการสร้างงานนำเสนอจาก Template
(แม่แบบ) ซึ่งเป็นการสร้างรูปแบบให้กับสไลด์แผ่นอื่นๆ
ขั้นตอนในการสร้างงานนำเสนอจาก Template มีรายละเอียดดังนี้

1. เปิดโปรแกรม PowerPoint
ขึ้นมาใหม่ จะพบ “ กล่องโต้ตอบเริ่มต้น
”
2. จากนั้นให้คลิกเลือกการสร้างงานนำเสนอด้วย
“ แม่แบบ ”
3. คลิกปุ่ม “
ตกลง ”
4. คลิกเลือกรูปแบบ
Template ที่ต้องการ โดยดูจากภาพแสดงตัวอย่างด้านขวา
5. คลิกปุ่ม “
ตกลง ”
6. คลิกเลือกรูปแบบเค้าโครงอัตโนมัติ
(Presentation Designs) ซึ่งเป็นรูปแบบการจัดวางข้อความและรูปภาพในสไลด์
7. คลิกปุ่ม “
ตกลง ”


8. จะได้สไลด์หนึ่งแผ่น
ที่มีสีสันพื้นหลังที่สวยงาม ส่วนเนื้อเรื่องและรูปภาพต่างต้องใส่เพิ่มเติมเอาเอง

ในการสร้างงานนำเสนอแบบ
Template นี้เมื่อเราเพิ่มสไลด์ใหม่ ก็จะได้รูปแบบของสไลด์เป็นแบบเดียวกันตลอดทั้งไฟล์
ทำให้ง่ายและสะดวกในการตกแต่งสีสันของพื้นหลัง ดังรูป

3. การตกแต่งงานนำเสนอข้อมูล
การตกแต่งสไลด์ให้ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
อาจทำได้ด้วยการใส่รูปภาพประกอบสไลด์ โดยควรพิจารณาภาพและข้อความในสไลด์ให้เหมาะสมกันด้วย
3.1 ขั้นตอนการใส่รูปภาพ
มีรายละเอียดดังนี้
1. คลิกเมาส์ตำแหน่งที่จะวางรูปภาพ
2. เลือกเมนูคำสั่ง แทรก > รูปภาพ > ภาพตัดปะ

3. คลิกเลือกหมวดหมู่ที่ต้องการ

4. คลิกปุ่ม “ แทรกคลิป ” หรือ คลิกขวา “ แทรก ”

3.2 การใส่ลูกเล่นในขณะเปลี่ยนสไลด์
ขั้นตอนการกำหนดลูกเล่นในขณะเปลี่ยนแผ่นสไลด์
มีรายละเอียดดังนี้
1. คลิกที่ปุ่ม มุมมองตัวเรียงลำดับภาพนิ่ง หรือเลือกเมนูคำสั่ง มุมมอง>ตัวเรียงลำดับภาพนิ่ง
2. คลิกเลือกสไลด์ที่ต้องการใส่เทคนิค ซึ่งสามารถเลือกทีละหลายๆสไลด์ก็ได้
3. คลิกปุ่ม การเปลี่ยนภาพนิ่ง
1. คลิกที่ปุ่ม มุมมองตัวเรียงลำดับภาพนิ่ง หรือเลือกเมนูคำสั่ง มุมมอง>ตัวเรียงลำดับภาพนิ่ง
2. คลิกเลือกสไลด์ที่ต้องการใส่เทคนิค ซึ่งสามารถเลือกทีละหลายๆสไลด์ก็ได้
3. คลิกปุ่ม การเปลี่ยนภาพนิ่ง

4. เลือกรูปแบบวิธีเปลี่ยนสไลด์ ซึ่งจะเห็นภาพตัวอย่างแสดงให้ดูไปพร้อมๆกับที่เลือก
5. คลิกเลือกความเร็วในการเปลี่ยนสไลด์ ซึ่งเลือกได้ 3 ระดับ คือช้า ปานกลาง และเร็ว
6. ในกรอบ ขั้นสูง ให้เลือกว่าจะเปลี่ยนสไลด์เมื่อใด
6.1เมื่อคลิกเมาส์ หากต้องการเปลี่ยนสไลด์หลังการคลิก
6.2อัตโนมัติ 3 วินาที หากต้องการให้เปลี่ยนสไลด์อัตโนมัติ โดยต้องกำหนดเวลาเป็นวินาทีไว้ด้วย จากรูป หมายถึง ให้เปลี่ยนแผ่นภายในเวลา 5 วินาทีเป็นต้น
7. ในกรอบ เสียง ให้คลิกเลือกเสียงประกอบในขณะเปลี่ยนแผ่นสไลด์
8. หากต้องการให้เกิดเสียงดังไปเรื่อยๆ จนกว่า จะมีเสียงอื่นให้คลิกในช่องสี่เหลี่ยมให้เป็นเครื่องหมาย üหน้า “วนรอบจนถึงเสียงถัดไป”
9. คลิกปุ่ม “ใช้” เพื่อกำหนดค่าที่ตั้งไว้ มีผลกับสไลด์ที่ได้เลือกไว้ในขั้นตอนที่ 2 แต่ถ้าหากเลือก “ใช้กับทั้งหมด” หมายถึง กำหนดค่าที่ได้ตั้งไว้นี้กับทุกสไลด์
10. ทดสอบผลลัพธ์ด้วยการเลือกเมนู มุมมอง>แสดงภาพนิ่ง เพื่อทดลองนำเสนอ
5. คลิกเลือกความเร็วในการเปลี่ยนสไลด์ ซึ่งเลือกได้ 3 ระดับ คือช้า ปานกลาง และเร็ว
6. ในกรอบ ขั้นสูง ให้เลือกว่าจะเปลี่ยนสไลด์เมื่อใด
6.1เมื่อคลิกเมาส์ หากต้องการเปลี่ยนสไลด์หลังการคลิก
6.2อัตโนมัติ 3 วินาที หากต้องการให้เปลี่ยนสไลด์อัตโนมัติ โดยต้องกำหนดเวลาเป็นวินาทีไว้ด้วย จากรูป หมายถึง ให้เปลี่ยนแผ่นภายในเวลา 5 วินาทีเป็นต้น
7. ในกรอบ เสียง ให้คลิกเลือกเสียงประกอบในขณะเปลี่ยนแผ่นสไลด์
8. หากต้องการให้เกิดเสียงดังไปเรื่อยๆ จนกว่า จะมีเสียงอื่นให้คลิกในช่องสี่เหลี่ยมให้เป็นเครื่องหมาย üหน้า “วนรอบจนถึงเสียงถัดไป”
9. คลิกปุ่ม “ใช้” เพื่อกำหนดค่าที่ตั้งไว้ มีผลกับสไลด์ที่ได้เลือกไว้ในขั้นตอนที่ 2 แต่ถ้าหากเลือก “ใช้กับทั้งหมด” หมายถึง กำหนดค่าที่ได้ตั้งไว้นี้กับทุกสไลด์
10. ทดสอบผลลัพธ์ด้วยการเลือกเมนู มุมมอง>แสดงภาพนิ่ง เพื่อทดลองนำเสนอ

3.3 การใส่ลูกเล่นการแสดงรูปภาพและข้อความ
ขั้นตอนการเลือกใช้เทคนิคการแสดงภาพและข้อความ
มีรายละเอียดดังนี้
1. คลิกปุ่มมุมมองภาพนิ่ง (Slide View)
2. คลิกเลือกภาพหรือข้อความที่ต้องการเทคนิคการนำเสนอ
3. เลือกคำสั่ง นำเสนอภาพนิ่ง>ภาพการเคลื่อนไหวที่ตั้งไว้ล่วงหน้า
4. เลือกรูปแบบเทคนิคการนำเสนอตามต้องการ
1. คลิกปุ่มมุมมองภาพนิ่ง (Slide View)
2. คลิกเลือกภาพหรือข้อความที่ต้องการเทคนิคการนำเสนอ
3. เลือกคำสั่ง นำเสนอภาพนิ่ง>ภาพการเคลื่อนไหวที่ตั้งไว้ล่วงหน้า
4. เลือกรูปแบบเทคนิคการนำเสนอตามต้องการ
4. การบันทึกงานนำเสนอข้อมูล
หลังจากที่ได้สร้างงานนำเสนอจาก
AutoContent Wizard หรือจาก Template ให้ทำการบันทึก
(Save) งานทุกครั้ง เพื่อความสะดวกในการนำกลับมาแก้ไขภายหลัง
วิธีการบันทึก ทำได้ดังนี้
1. เลือกคำสั่ง แฟ้ม
> บันทึก
2. เลือกตำแหน่งที่จะใช้เก็บงานนำเสนอ
3. ตั้งชื่องานนำเสนอ
4. คลิกปุ่ม “
บันทึก ”


5. วิธีออกจากโปรแกรม PowerPoint2000
ขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. คลิกปุ่ม
กากบาท ด้านขวาบนสุด เพื่อปิดโปรแกรม
2. เลือกคำสั่ง
แฟ้ม > ปิด หรือ
3. ดับเบิ้ลคลิกที่
โปรแกรมไอคอน ซึ่งอยู่ด้านซ้ายบนสุดของโปรแกรม

แต่หากปิด
PowerPoint โดยยังไม่ได้ทำการบันทึกไฟล์นั้นก่อน โปรแกรมจะเตือนให้ทำการบันทึกงานที่ค้างไว้ด้วยถ้าต้องการบันทึกให้กดปุ่ม
“ ใช่ ”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น